About หนุ่มจุดระเบิดลองของ “สมเด็จวัดระฆัง” ตอนจบไม่ทราบชะตากรรม ชาวเน็ตแห่สาธุรัวๆ
About หนุ่มจุดระเบิดลองของ “สมเด็จวัดระฆัง” ตอนจบไม่ทราบชะตากรรม ชาวเน็ตแห่สาธุรัวๆ
Blog Article
หนุ่มลองของ “สมเด็จวัดระฆัง” ตอนจบไม่ทราบชะตากรรม ชาวเน็ตคอมเมนต์ทิศทางเดียว
เนื้อหามวลสารพระต้องไม่ตึงเรียบไปทั้งองค์ พื้นผิวต้องปรากฏรูพรุนลึกบ้าง ตื้นบ้างซึ่งอาจจะเกิดจากอินทรีย์สารที่เป็นส่วนผสมในเนื้อพระย่อยและเสื่อมสลายหลุดรุ่ยไปจากผิวพระ ที่ขอบข้างขององค์พระจะเห็นรอยปริแยกที่ไม่เหมือนกัน เกิดจากการยุบตัวแห้งลงของมวลสาร ไม่เรียบเนียน
หนุ่มจุดระเบิดลองของสมเด็จวัดระฆัง "พระพยอม" เตือนใจหากไม่อยู่ในศีลในธรรม ของพวกนี้ก็ไม่ขลังมีแต่จะเสื่อม
พระพยอม กล่าวว่า เรื่องนี้ให้ทั้งคุณและโทษ พระอาจารย์ผู้ทำของขลังจะสอนว่าอย่าไปด่าหยาบคาย ตีหัวหมาด่าแม่เจ็ก ไปล่วงละเมิดภรรยาผู้อื่นไม่ได้ ควรอยู่ในศีลในธรรม ทำให้อยู่รอดปลอดภัย อันนี้คือเป็นประโยชน์ ส่วนเป็นโทษคือได้มาแล้วกราบ ไปลองของ ตามข่าวที่เอามาคือไปลองพันกับระเบิดแล้วเกิดระเบิดโดนตัวเอง หรือเอาไปผูกกับหมา ใส่ในหัวปลา มีแต่จะบาปด้วย ซวยด้วย เหมือนไม่มีความเชื่อมั่นในของเหล่านั้น
จากกรณีเพจอีซ้อขยี้ข่าว โพสต์คลิปและระบุข้อความว่า “หนุ่มลองของ...อัดคลิปจุดประทัดปิงปองพิสูจน์พุทธคุณของสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ใหญ่ ก่อนถูกหามส่งโรงพยาบาลสู่ตำนานบทใหม่”
วัดระฆังโฆสิตารามมีหอพระไตรปิฎกซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่สวยงามมาก เคยเป็นพระตำหนักและหอประทับนั่งของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชขณะทรงรับราชการในสมัยธนบุรี และโปรดเกล้าฯ ให้รื้อมาถวายวัด เมื่อเสด็จขึ้นครองราชสมบัติแล้ว หนุ่มจุดระเบิดลองของ “สมเด็จวัดระฆัง” ตอนจบไม่ทราบชะตากรรม ชาวเน็ตแห่สาธุรัวๆ มีพระราชประสงค์จะบูรณปฏิสังขรณ์ให้สวยงามเพื่อเป็นหอพระพระไตรปิฎก
ท่องเที่ยว หน้าหลักท่องเที่ยว เที่ยวบ้านเรา เที่ยวบ้านเขา อร่อยต้องแวะ ปักหมุดที่พัก
จับตา ปรับเกณฑ์ เข็น“ดิจิทัล วอลเล็ต” ดึงความเชื่อมั่นรัฐบาลเพื่อไทย
ชวนสนุกเพลิดเพลินไปกับศูนย์รวมเกมที่น่าสนใจที่นี่
วัดระฆังโฆสิตาราม เขตบางกอกน้อย ธนบุรี
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้
ยังกับในหนัง วงจรปิดนาทีโรงงานพลุระเบิดสนั่น ชาวบ้านริมรั้ววิ่งหนีตายอลหม่าน
“วัน อยู่บำรุง” ปาดน้ำตา ประกาศลาออกพรรคเพื่อไทย…
แบบนี้ลบหลู่! 'พระพยอม' เตือนหนุ่มลองของจุดประทัดพิสูจน์พุทธคุณพระสมเด็จ